.png)
ทุนรัฐบาลอินเดีย ประจำปี 2016 - 2017 เปิดรับสมัครแล้ว
ขอสรุปข้อมูลการรับสมัครสำหรับปีนี้คร่าวๆ ดังนี้ค่ะ
หมดเขตรับสมัคร : 15 ธันวาคม 2558
ระดับทุนที่ให้ : ปริญญาตรี, ปริญญาโท, ปริญญาเอก และวิจัยหลังปริญญาเอก
สาขาวิชาที่ให้ทุน : ทุกสาขาวิชา ยกเว้น แพทย์, ทันตแพทย์, พยาบาล, แฟชั่น
วิธีการสมัคร : สมัครด้วยตนเอง
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร : สอบถามโดยตรงที่สถานฑูต
สถานที่รับสมัคร : สถานฑูตอินเดียประจำประเทศไทย ซ. สุขุมวิท 23 (ประสานมิตร-อโศก)
สอบถามเพิ่มเติม : คุณพรพิมล เกศสกุล เจ้าหน้าที่ฝ่ายการศึกษาประจำสถานฑูตฯ โทร. 02-2580300-5 ต่อ 6 หรืออีเมลล์ info.bangkok@mea.gov.in
สงสัยเกี่ยวกับรับสมัครตรงไหน สอบถามโดยตรงที่สถานฑูตฯเลยนะคะ
ไม่ต้องโทรมาถามพี่ๆที่ WES น๊าาา เพราะพี่ๆ ตอบแทนสถานฑูตไม่ได้จ้าา
และเพื่อเป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวสอบของน้องๆ
วันนี้พี่ตั้มจะมาแชร์ประสบการณ์การสอบทุนฯ เมื่อปีที่แล้ว และได้รับคัดเลือกให้รับทุน
เข้าเรียนระดับปริญญาเอก ณ Bangalore University มาหมาดๆเมื่อกลางปีที่ผ่านมา
"กว่าจะเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลอินเดีย"
ผ่านมาหลายเดือนแล้วกับสถานภาพ “นักเรียนทุนรัฐบาลอินเดีย” หรือที่มักจะเรียกกันสั้น ๆ ว่า ทุน ICCR มีชื่อเต็มว่า Indian Council for Cultural Relations Scholarship โดยประเทศไทยได้รับการจัดสรรทุนอยู่ภายใต้โครงการวัฒนธรรมทั่วไป (The General Cultural Scholarship Scheme) และทุนภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างลุ่มแม่นน้ำโขง-คงคา (Mekong-Ganga Cooperation Scholarship Scheme) เป็นจำนวนที่ไม่เท่ากันในแต่ละปี สำหรับปีที่แล้วมีทั้งสิ้น 20 ทุน โดยทุนเหล่านี้จะเป็นทุนในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก และวิจัยหลังปริญญาเอกค่ะ
ทุนรัฐบาลอินเดียโดยปกติจะเปิดรับสมัครประมาณช่วงปลายปีของทุกปี ในปีที่แล้ว เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2557 ถึง 15 มกราคม 2558 และสมัครโดยการยื่นเอกสารต่าง ๆ ด้วยตัวเองที่สถานฑูตอินเดีย (ซอยสุขุมวิท 23 อโศก) แต่สำหรับปีนี้ เปิดรับสมัครเร็วกว่าปีที่แล้ว และปิดรับสมัครวันที่ 15 ธันวาคม 2558 ดังนั้นเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว รีบสมัครกันด่วนจ้า..
การสอบชิงทุนจะแบ่งออกเป็น 2 รอบ คือการสอบข้อเขียนและการสอบสัมภาษณ์
1) การสอบข้อเขียน มีสอบวิชาเดียวคือวิชาภาษาอังกฤษ ส่วนใหญ่จะจัดสอบวันศุกร์ช่วงเย็นเพื่อที่จะได้สะดวกกับทุกคนในการเดินทางมาสอบ ปีที่ผ่านมาจัดสอบข้อเขียนในวันศุกร์ที่ 23 มกราคม 2558 สถานที่สอบคือโรงเรียน Modern International School Bangkok ถนนสุขุมวิท 39 ข้อสอบจะมีทั้งแบบกากบาทและเขียนบรรยาย ซึ่งจะเน้นความรู้ทางด้านไวยกรณ์ (แกรมม่า) ทักษะการอ่าน และทักษะการเขียนเป็นหลัก หลังจากนั้นประมาณ 5 วัน ทางสถานฑูตจะประกาศผลสอบข้อเขียนทางโทรศัพท์ ซึ่งผู้ที่สอบผ่านข้อเขียนจะมีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งให้เราไปสอบสัมภาษณ์
2) การสอบสัมภาษณ์ หลังจากพี่ตั้มได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าผ่านข้อเขียน ก็ต้องรีบจองตั๋วเครื่องบินเป็นการด่วนจากเชียงรายลงกรุงเทพฯ เพื่อเดินทางไปสอบสัมภาษณ์ที่สถานฑูตฯ ช่วงนั้นพี่ตั้มยังทำงานเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ทำให้ต้องเดินทางขึ้นๆ ลงๆ กรุงเทพ-เชียงราย ทุกสัปดาห์เลยค่ะ โดยต้องลางานทุกวันศุกร์ ยังแอบโชคดีว่าไม่มีตารางสอนในวันศุกร์พอดี ตอนนั้นแอบคิดว่าถ้าสอบไม่ได้นี่แย่แน่ๆ เพราะลงทุนค่าเดินทางไปเยอะมาก (^_^") .. โดยการสอบสัมภาษณ์จะแบ่งช่วงเช้าเป็นคิวสัมภาษณ์ของนักเรียนทุน ป.เอก และ ป.โท และช่วงบ่ายจะเป็น ป.ตรี เพราะจำนวนผู้สมัครของ ป.ตรี จะเยอะกว่าค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้ผ่านการสอบข้อเขียนด้วย เท่าที่ทราบเกณฑ์การสอบผ่านข้อเขียนจะดูที่คะแนนผ่านเกณฑ์ตามที่สถานฑูตฯกำหนด ไม่ได้เรียงลำดับคะแนนสอบจากมากไปน้อย ดังนั้นขอให้ตั้งใจทำข้อสอบข้อเขียนให้ผ่าน ส่วนการที่จะได้รับคัดเลือกให้ได้เป็นผู้รับทุนหรือไม่ มาวัดกันที่การสอบสัมภาษณ์เป็นหลัก
แล้ววันสอบสัมภาษณ์ก็มาถึง เมื่อปีที่ผ่านมาตรงกับวันศุกร์ที่ 30 มกราคม 2558 พี่ตั้มเดินทางไปถึงสถานฑูตตั้งแต่เช้า เข้าไปรายงานตัว เรียงลำดับการเข้าสัมภาษณ์ตามลำดับการสมัคร ซึ่งพี่ได้คิวสัมภาษณ์เป็นคนที่ 5 ด้วยการสมัครทุนของพี่อยู่ในระดับปริญญาเอก ก็เลยทำให้เจอแต่พี่ๆ ที่สมัครในระดับปริญญาเอกด้วยกัน แต่มาจากหลากหลายสาขาวิชามากค่ะ ไม่ว่าเป็นด้านการศึกษา ด้านภาษาอังกฤษ ด้านปรัชญาและศาสนา ด้านบริหารธุรกิจ ฯลฯ .. จะมีใครทายถูกไหมว่าพี่ตั้มสมัครในสาขาด้านไหน .. ตอบ วิศวกรรมศาสตร์ สาขาไฟฟ้าและสื่อสาร เรียกได้ว่าแหวกแนวเป็นสายวิศวะ คนเดียวเลยค่ะ .. คำถามสัมภาษณ์ของแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป คำถามส่วนมากก็จะเน้นถามถึงแนวความคิดว่าทำไมเราถึงสมัครเพื่อไปเรียนที่อินเดีย ทำไมถึงเลือกมหาวิทยาลัยและเมืองนั้นๆ รวมถึงเรารู้จักอินเดียบ้างไหม เคยไปบ้างหรือเปล่า เป็นคำถามทั่วๆไป ไม่ได้เน้นวิชาการสักเท่าไหร่
การประกาศผลหลังจากการสอบสัมภาษณ์ หากคุณเป็นผู้สอบผ่าน ไม่ได้หมายความว่าคุณได้รับทุนแล้ว แต่จะหมายความว่าคุณเป็นผู้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ที่มีสิทธิ์รับทุน และยื่นสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในอินเดีย แต่นั่นก็ยังไม่ได้หมายความว่าเราจะได้ไปเรียนนะคะ จะได้ไปหรือไม่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่ามหาวิทยาลัยที่เราเลือก ได้ตอบรับเราเข้าเรียนหรือเปล่า ... มาถึงจุดนี้ พี่บอกได้คำเดียวว่าเราทำอะไรไม่ได้ค่ะ นอกจากรอ ... แต่พี่ขอแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจสมัครเข้าเรียนระดับ ป.โท และ ป.เอก ถ้าเป็นไปได้ลองติดต่อไปทางอาจารย์หรือไกด์ (GUIDE) ที่อินเดียเราจะเรียกอาจารย์ที่ปรึกษาว่าไกด์ค่ะ ถ้าหากทางไกด์เค้ารับเรา เค้าจะช่วยดูเอกสารจากทุนที่ยื่นไปที่มหาวิทยาลัยให้ และจะทำให้เราได้รับการตอบรับแบบแน่นอน ไม่พลาดทุนค่ะ .. เคยทราบมาว่ามีหลายคนที่ผ่านการสอบข้อเขียนและผ่านสัมภาษณ์จากสถานฑูตฯ ให้เป็นผู้มีสิทธิ์รับทุนแล้ว แต่สุดท้ายไม่ได้รับการตอบรับให้เข้าเรียนจากมหาวิทยาลัยที่อินเดีย ก็ถือว่าอดได้รับทุนไปเลยค่ะ
จากวันที่ทราบผลว่าพี่ตั้มได้ผ่านการสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ก็ได้แต่รอ รอ รอ จนกระทั่งวันนึงได้รับอีเมลล์จากสถานทูตฯ ซึ่งตรงกับวันที่ 12 มิถุนายน 2558 ใช้เวลารอเป็นเวลาร่วม 4 เดือน ว่าได้รับการตอบรับจาก Bangalore University ให้เข้าเรียนหลักสูตร ปริญญาเอกในสาขาวิชา Electronics and Communications Engineering และจะต้องเดินทางไปรายงานตัวที่เมืองบังกาลอร์ ภายในวันที่ 1-10 กรกฎาคม 2558 งานนี้ไหนจะต้องเตรียมตัวเก็บของ ไหนจะต้องทำวีซ่า เรื่องยุ่ง ๆ กับชีวิตที่สุดแสนจะวุ่นวายก็ได้เริ่มต้นขึ้น ณ บัดนั้นค่ะ ...
อย่างไรก็ขอให้น้องๆ โชคดีในการสอบปีนี้ ตามมาเป็นนักเรียนทุนฯ ด้วยกันนะคะ