แนะนำตัวหน่อยค่ะ

สวัสดีค่ะ หนูชื่อ น.ส.ณมล นวลศรี ปัจจุบันอายุ 26 ปี เรียก แพรวก็ได้ค่ะ เรียนจบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในช่วงปี 2015 หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้ทำงานที่สุวรรณภูมิ ก่อนที่จะมาเรียนต่อปริญญาโท คณะธุรกิจระหว่างประเทศ ณ เมือง Bydgoszcz ประเทศโปแลนด์ ในช่วงปลายปี 2017, โดยใช้เวลาศึกษาอยู่ 4 เทอม หรือ 2 ปี ภาคเรียนแรกเป็นช่วง ตุลาคม-กุมภาพันธ์ ภาคเรียนสองเริ่ม มีนาคม-มิถุนายน และปิดภาคเรียนช่วงซัมเมอร์ 3 เดือน คือ กรกฏาคม, สิงหาคม และกันยายน

​

เมืองและมหาลัยที่เรียนเป็นยังไงบ้าง สาขาวิชายากมั้ย สนุกมั้ย

เมือง Bydgoszcz เป็นเมืองเล็ก ๆ ไม่วุ่นวาย ผู้คนไม่แออัด ค่อนข้างเงียบสงบ อากาศหนาวเย็นสบาย ส่วนมหาลัยที่เรียน เรียกสั้น ๆ ว่า WSG เป็นมหาลัยเอกชนขนาดเล็กตั้งอยู่ในตัวเมืองที่พึ่งมีการเปิดรับนักศึกษาต่างชาติปริญญาโทเป็นครั้งที่ 2 การเรียนการสอนยังไม่เข้มข้นเทียบเท่ามหาลัยรัฐบาลของที่นี่ ยังไม่เป็นระบบระเบียบ แต่ทางมหาลัยก็พัฒนาและปรับปรุงอยู่ตลอด ด้วยความที่มีนักศึกษาต่างชาติเยอะขึ้น ๆ ในทุกเทอม ในอนาคตคงเป็นมหาลัยที่ดีแห่งนึง วิชาที่เรียนมีผสมกันไป ยากบ้างง่ายบ้าง แต่ที่แน่ ๆ ในแต่ละเทอมจะมีวิชาที่หินเสมอ (หินในที่นี้หมายถึงอาจารย์โหด, เรียนหนัก, เรียนยาก ฯลฯ แบบเตรียมลุ้นว่าจะตกไหม?) เวลาเรียนมันก็มีทุกรสชาติ อาทิ ตื่นเต้น/ท้าทาย/เหนื่อย/ขีเกียจ/ห่วงนอน หรือ สนุกในบางครั้ง แต่โชคดีที่มีเพื่อนร่วมชั้นที่ดี มีอาจารย์ที่ใจดีและเอ็นดูเรามาก

​

เพื่อนในห้องมาจากไหนบ้าง เล่าถึงเพื่อนสนิทหรือสิ่งที่ประทับใจเกี่ยวกับเพื่อนหน่อย

เพื่อนร่วมชั้นก็มีทั้งโซนเอเชีย, แอฟริกา และยุโรป อาทิ อินเดีย, ศรีลังกา, เนปาล, รวันดา, แอลจีเรีย, ไนจีเรีย, แคเมอรู, ยูเครน ฯลฯ และในบางครั้งก็เรียนร่วมกับนักเรียนทุน Erasmus ที่มาจาก ตุรกี, อิตาลี, สเปน หรือเรียนร่วมชั้นกับห้องอื่นในบางวิชา คือเอาจริง ๆ เพื่อนสนิทกันทั้งนั้น เพราะมีกันไม่เยอะ สิ่งที่ประทับใจเกี่ยวกับเพื่อน มีครั้งนึงได้ทำงานเป็นทีม 3 คน ในทีมมี แพรว, เพื่อนชายคนรวันดา และเพื่อนชายคนแอลจีเรีย เราทุกคนช่วยกันทำงานด้วยกันที่ห้องสมุดของมหาลัย มันเป็นความหลงตัวแบบที่สุด แพรวถนัดใช้โปรแกรม, เพื่อนรวันดาถนัดพิมพ์, เพื่อนแอลจีเรียถนัดหาข้อมูล มันเป็นการทำงานที่ถึงแม้ว่าจะทะเลาะกันทุกวินาที แต่งานก็มีประสิทธิภาพและสมบูรณ์ที่สุด เพราะได้ดึงศักยภาพของทุกคนออกมาใช้